วิธีปลูกมะเขือเปราะ : เริ่มจากเตรียมแปลงปลูกและผสมปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยเคมีให้พร้อม แล้วทิ้งไว้ประมาณ 7-10 วัน จากนั้นมาผสมดิน 3 ส่วน ปุ๋ยคอก 1 ส่วน และทรายหรือแกลบ 1 ส่วนลงในถาดเพาะกล้า แล้วหยอดเมล็ดลงไป คอยรดน้ำเช้า-เย็น จนกล้ามีใบจริงขึ้นมา 3-4 ใบ หรือมีอายุ 15 วัน ค่อยย้ายลงดินปลูก อย่าลืมกลบดินและรดน้ำให้ชุ่ม โดยมะเขือชนิดนี้ชอบน้ำมาก ช่วงแรกควรรดทุกวัน ทั้งเช้าและเย็น หลังจากนั้นก็ค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ จนเหลือประมาณ 2วัน/ครั้ง เมื่อมีอายุ 65-90 วัน ต้นก็จะออกผลพร้อมแก่การเก็บเกี่ยว
วิธีปลูกมะเขือพวง : ให้เพาะกล้าด้วยการหว่านเมล็ดลงในกระบะเพาะ แล้วรดน้ำให้ชุ่มเช้า-เย็น จนกว่ากล้าจะมีใบจริงประมาณ 3-4 ใบ ค่อยย้ายลงแปลงปลูก ซึ่งแปลงปลูกต้องเตรียมดินไว้ก่อนประมาณ 7-10 วัน ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักให้เรียบร้อย จากนั้นก็นำกล้ามาปลูก เว้นระยะห่างให้เหมาะสม กลบโคนให้แน่น คลุมด้วยฟางข้าว และรดน้ำให้ชุ่มสม่ำเสมอ แต่ต้องระวังอย่าให้แฉะ หมั่นดูแลกำจัดวัชพืชเป็นประจำ ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยเคมีได้ตามสมควร โดยมะเขือพวงเป็นไม้กลางแจ้ง ที่ทนความร้อนและแล้งได้ดี จึงดูแลไม่ยาก ปลูกง่าย โตเร็ว ไม่ค่อยมีปัญหาพืชหรือแมลงรบกวน แถมยังเก็บเกี่ยวได้เป็นเวลานานด้วย
วิธีปลูกมะเขือม่วง : ให้เพาะกล้าในกระบะ โดยผสมดินร่วนกับปุ๋ยคอกในอัตรา 1:3 ส่วน แล้วหยอดเมล็ดลงในหลุ่ม เกลี่ยดินกลบ รดน้ำให้ชุ่ม รอจนกล้ามีใบจริง 3-5 ใบ ค่อยย้ายไปปลูกในดินที่ดี มีการรองพื้นด้วยปุ๋ยคอกและกำจัดวัชพืชออกทั้งหมด ซึ่งก่อนจะใส่กล้าลงในหลุม ควรรดน้ำให้ชุ่มก่อน อย่าลืมเว้นระยะห่างให้เหมาะสม กลบโคนต้น และรดน้ำให้ชุ่มอีกครั้งด้วย ส่วนการดูแล ช่วงแรกให้รดน้ำทุกวัน แล้วค่อยลดลงมาเรื่อย ๆ จนเหลือวันเว้นวัน ใส่ปุ๋ย 2 ครั้ง คือ หลังปลูก 20-25 วัน กับอายุประมาณ 45-50 วัน และหมั่นกำจัดวัชพืชจนกว่าต้นจะมีอายุ 3 เดือน
วิธีปลูกมะเขือไข่เต่า : เริ่มที่การผสมดินกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 2:1 ส่วน ลงในถาดเพาะ แล้วจิ้มดินลึก 0.5 เซนติเมตร พร้อมกับหยอดเมล็ดลงไป กลบหน้าดินให้เรียบร้อย รดน้ำทุกเช้า-เย็น จนกล้าเริ่มโตหรือมีอายุ 25-30 วัน ค่อยย้ายลงดินปลูก ซึ่งถ้าปลูกในกระถาง ให้ใช้ดินร่วนผสมกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักในอัตรา 2:1 ส่วนเช่นกัน จากนั้นก็ขุดหลุมแล้ววางกล้าลงไป โดยในช่วงแรกควรตั้งในที่ร่มก่อน พอแข็งแรงแล้วค่อยย้ายออกไปตั้งให้โดนแดด
วิธีปลูกและดูแลมะเขือขื่น : ให้เพาะเมล็ดในถุงชำจนกระทั่งต้นกล้ามีอายุ 30 วัน ค่อยย้ายไปปลูกลงในดิน เว้นระยะห่างให้เหมาะสม โดยมะเขือชนิดนี้ทนแล้งได้ดี โตได้ในดินทุกชนิด แต่จะชอบดินร่วนปนทรายมากเป็นพิเศษ หมั่นรดน้ำเช้า-เย็น ทุกวัน แต่ระวังอย่าให้น้ำขัง ควรปลูกในที่ที่มีแสงแดด และทำการตัดแต่งกิ่งเสมอ ไม่นานประมาณ 60 วัน ก็จะเริ่มเก็บเกี่ยวได้
วิธีปลูกมะเขือยาว : เริ่มต้นที่การเพาะกล้า โดยปรับหน้าดินให้เรียบ แล้วหว่านเมล็ดให้กระจายทั่วแปลง กลบด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก พร้อมคลุมด้วยฟางบาง ๆ ดูแลรดน้ำให้ชุ่มสม่ำเสมอจนกว่าต้นกล้ามีใบจริง 2-3 ใบ ค่อยย้ายลงแปลงปลูก โดยในส่วนของแปลงปลูก ต้องเตรียมดินปลูกให้ลึกประมาณ 10-20 นิ้ว และตากทิ้งไว้ 7-10 วันก่อน อย่าลืมใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยรองพื้นให้เรียบร้อย จากนั้นนำมาปลูกได้ ทั้งนี้ควรเว้นระยะห่างระหว่างแถวและระหว่างต้นพอสมควร ดูแลรดน้ำเป็นประจำทุกวัน พรวนดินกำจัดวัชพืชเสมอ ใส่ปุ๋ยช่วยบ้างเล็กน้อย พออายุประมาณ 60-80 วัน ก็จะเก็บเกี่ยวมากินได้แล้ว
How to grow Thai round eggplant Beginning with planting plots and mixing manure, compost or chemical fertilizers ready. Then leave it for about 7-10 days, then mix 3 parts soil, 1 part manure and 1 part sand or husk into the seedling tray. And drop the seeds Keep watering in the morning and evening. Until dare to have 3-4 true leaves or 15 days old Gradually move into potting soil Don't forget to cover the soil and water well. This type of eggplant is very fond of water. The first period should be watered every day. Both morning and evening After that it is gradually reduced until about 2 days / time. When the age of 65-90 days, it will bear fruit ready for harvest. How to grow plate bush eggplant How to grow eggplants: To cultivate the seedlings by sowing the seeds in the nursery tray. And water to soak in the morning and evening Until the plant has 3-4 true leaves, gradually transplanting down The plot must be prepared for about 7-10 days before adding manure and compost. Then bring the seedlings to plant Spaced appropriately CoverBut be careful not to be wet Regularly take care of weeding regularly and add manure, compost or chemical fertilizers as appropriate. The eggplant is an outdoor plant. That tolerate heat and drought well Therefore not difficult to care for, easy to grow, fast growing, rarely have problems with plants or insects And can also be harvested for a long time as well the base firmly Cover with straw And water regularly