Description
Description/Taste
Yellow eggplants are small, round or oval, averaging 2-5 centimeters in diameter. The outer skin is smooth and white when young and transforms into a golden yellow when mature. The inner flesh is firm and ivory with many brown seeds. Yellow eggplants grow in clusters on shrub-like plants that reach almost a meter in height. Yellow eggplants are dense, crunchy, and bitter and do not have the mild, earthy, and sweet flavors that larger, soft, and fleshy varieties are known for.
Seasons/Availability
Yellow eggplants are available year-round.
Current Facts
Yellow eggplants, botanically classified as Solanum melongena, are a rare Thai heirloom variety and are members of the Solanaceae, or nightshade family along with potatoes, tomatoes, and peppers. They are often called baby eggplants because of their small size and may also be referred to as Thai Round Yellow, Thai Yellow Egg, and Golden Eggs. Yellow eggplants are commonly used in curry-based dishes or used as garnishes, but some varieties were also developed for ornamental use.
Nutritional Value
Yellow eggplants contain dietary fiber, calcium, phosphorous, potassium, and manganese. They also contain some vitamins A and C.
Yellow eggplants are best suited for cooked applications such as sautéing, frying, and roasting. Known for their bitter taste, the seeds are first removed, and the flesh is then soaked in water to reduce the sour flavor. Yellow eggplants are popularly sliced and sautéed in coconut milk-based curries. They can also be diced with chilies in stir-fries and can be used interchangeably or alongside the more common green variety of Thai baby eggplant. Yellow eggplants pair well lemongrass, red chilies, garlic, lime, coriander, meats such as chicken and beef, coconut milk, and Thai basil. Yellow eggplants will keep up to two days when refrigerated.
Ethnic/Cultural Info
Eggplants are prominent in Thai cuisine and culture. They are used medicinally in Thailand to reduce symptoms of stomach ulcers and are also found in many local folk stories. In the story of Kao and The Eggplant Flower, Thailand’s version of Cinderella, a young peasant girl marries a prince after she brings him plants that originally sprang from a magical eggplant.
Geography/History
Thai eggplants were first cultivated in India and botanists believe that ancient civilizations in Southeast Asia were the first to grow and gradually develop different types of eggplants such as the Yellow eggplant. Today Yellow eggplants can be found at markets in Asia, in online seed catalogs, and at specialty markets and stores in the United States, Australia, and Europe.
ชื่อสมุนไพร
มะเขือขื่น
ชื่ออื่นๆ
มะเขือเหลือง มะเขือขันขำ มะเขือคางกบ มะเขือคำ มะเขือแจ้ (ภาคเหนือ) มะเขือเปราะ มะเขือเสวย มะเขือแจ้ดิน (เชียงใหม่) มังคิเก่ (แม่ฮ่องสอน) เขือหิน (ภาคใต้) เขือเพา (นครศรีธรรมราช)
ชื่อวิทยาศาสตร์
Solanum aculeatissimum Jacq.
ชื่อพ้อง
Solanum cavaleriei H. Lév. & Vaniot, Solanum khasianum C.B. Clarke
ชื่อวงศ์
Solanaceae
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไม้ล้มลุก กึ่งไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ 1-3 เมตร ตามลำต้นมีหนามสั้น โคนต้นแก่มีเนื้อไม้แข็ง ลำต้นและกิ่งก้านรูปทรงกระบอกตั้งตรง มีสีม่วงทั้งลำต้น กิ่งก้านและใบมีขนอ่อนละเอียดขึ้นอยู่ทั่วไป มีขนรูปดาวยาวประมาณ 2 มิลลิเมตร และพบขนชนิดมีต่อม มีขนสั้นปกคลุมทั้งต้น มีหนามโค้งหรือตรง ขนาด 1-5 × 2-10 มิลลิเมตร ใบ เป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับ แผ่นใบมีหลายรูปร่าง แผ่นใบรูปไข่ขนาด กว้าง 4-12 ซม. ยาว 4.5-18 ซม. มีขนรูปดาวทั้งสองด้านของใบ โคนใบรูปหัวใจ ฐานใบสองด้านเยื้องกันเล็กน้อย ขอบใบหยักเว้าเป็นพูตื้นๆ 5-7 พู ปลายใบแหลมหรือมน มีหนามแหลมตามเส้นกลางใบ หลังใบสีเขียว ท้องใบเรียบเป็นมัน ก้านใบอ้วนสั้น ยาว 3-7 เซนติเมตร อาจพบหนามตามก้านใบ ดอกออกเป็นช่อสั้นแบบช่อกระจะ ดอกย่อย 4-6 ดอก หรือออกดอกเดี่ยวตามซอกใบ ก้านช่อยาว 1 เซนติเมตร ก้านดอกย่อยยาว 5-10 มิลลิเมตร มีขนยาวห่างๆ กลีบดอกสีม่วง มี 5 กลีบ โคนเชื่อมติดกันเป็นรูปกรวยสั้น ปลายแยกเป็นห้าแฉก กลีบรูปหอก ขนาด 4 × 14 มิลลิเมตร มีขนนุ่มเหมือนวงกลีบเลี้ยง กลีบเลี้ยงสีเขียว โคนเชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็น 5 แฉก ติดอยู่จนติดผล แต่ละแฉกรูปหอกแกมรูปขอบขนาน ขนาด 5×15 มิลลิเมตร มีขนนุ่ม วงกลีบเลี้ยงรูประฆังขนาด 5.5 เซนติเมตร เกสรสีเหลืองมี 5 อัน ก้านชูอับเรณูยาว 1-2 มิลลิเมตร อับเรณูรูปหอก เรียวแหลม ขนาด 6-7 มิลลิเมตร รังไข่เกลี้ยง ก้านชูเกสรเพศเมียยาว 6-7 มิลลิเมตร ผลรูปทรงกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2-3 เซนติเมตร ผิวเรียบเป็นมัน เปลือกเหนียว ผลอ่อนผิวเรียบลื่นสีเขียวเข้ม มีลายสีขาวแทรก เมื่อสุกมีสีเหลืองสด ชั้นเนื้อผลบางมีสีเขียวอ่อนอมเหลืองใส มีกลิ่นเฉพาะตัว มีรสขื่น เมล็ดกลมแบนเล็กๆ สีน้ำตาลอ่อน มีเมล็ดจำนวนมาก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2-2.8 มิลลิเมตร ออกดอกราวเดือนมีนาคมถึงสิงหาคม ติดผลราวเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม พบตามที่รกร้าง ทุ่งหญ้า ป่าเปิด ที่ระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 600-2,300 เมตร
สรรพคุณ
ตำรายาไทย ราก รสขื่นเอียน เปรี้ยวเล็กน้อย เป็นยาขับเสมหะและน้ำลาย แก้ไข้สันนิบาต แก้น้ำลายเหนียว รากแช่น้ำกินแก้ไอ ลดไขมันในเส้นเลือด กระทุ้งพิษไข้ แก้ไข้ที่มีพิษร้อน ใช้ปรุงกับยาอื่น แก้กามตายด้าน ผล รสเปรี้ยวขื่นเย็น เป็นยากัดเสมหะ แก้น้ำลายเหนียว แก้ไข้สันนิบาต เป็นยาบำรุง ผล เมือกจากผล ขูดตากแดด ใส่เหล้า อัตราส่วน 32 ลูก ต่อเหล้าหนึ่งขวด แก้ปวดเมื่อย ผลนำมาใส่แกง น้ำพริก หรือฝานเอาเฉพาะเปลือกใส่ในส้มตำลาว มีรสขื่นช่วยลดความเค็มของปลาร้าได้ ทำให้รสชาติส้มตำกลมกล่อม
ข้อควรระวัง คนไข้ที่มีอาการไอ ไม่ควรรับประทานผล เพราะจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง
Reviews
There are no reviews yet.